Nipponkitchen

ข้าวอบหอยอาซาริ เป็นข่้าวหุงกับหอยอาซาริ (Manila Clams) ปรุงรสด้วยโชยุ สาเก มิริน เป็นเมนูที่ทำงา่ย จะกินเป็นอาหารจานเดียวจบ หรือ เสิร์ฟพร้อมกับข้าวอย่าง ปลาทอด ปลาย่าง ก็อร่อยเข้ากันนะคะ หอยอาซาริเป็นหอยที่อยู่ได้ทั้งในนํ้าทะเล และนํ้ากร่อย ดูเผินๆ เหมือนหอยลาย แต่เปลือกหนากว่า เนื้อเยอะกว่า ส่วนรสชาตินั้นต้องบอกว่าเหมือนกันแทบแยกไม่ออก บางครั้งต๊ะเองยังเอามาทำอาหารไทยอย่างผัดเผ็ด 

หอยอาซาริหาซื้อได้ตลอดทั้งปีในญี่ปุ่น แต่ช่วงที่อร่อยที่สุดจะเป็นฤดูใบไม้ผลิ หอยอาซาริจะอ้วนอวบ และเนื้อแน่นน่ากินเป็นที่สุด หอยอาซาริเป็นอาหารประจำถิ่นในย่านที่ต๊ะอยู่อาศัย ต๊ะมีสูตรขนมจีบ ปอเปี๊ยะ ซูป บะหมี่ สารพัดสารพันที่มีหอยอาซาริเป็นส่วนผสมหลัก แล้วต๊ะจะทยอยลงสูตรใน blog นะคะ

เมนูวันนี้ต๊ะไม่ได้ถ่ายภาพขั้นตอนระหว่างทำไว้ เพราะเห็นว่าเป็นเมนูง่ายๆ ไม่มีขั้นตอนอะไรยุ่งยาก ต๊ะเชื่อว่าทำตามสูตรได้สบายๆ ค่ะ

เอาล่ะค่ะตามมาดูสูตรข้าวอบหอยอาซาริ (Asari Gohan) ที่ต๊ะทำกันกิบซาดาโอะ (โคชิไม่กินหอย) ดีกว่า อร่อยน้า

อย่าพึ่งงงค่ะที่เห็นซากุระในช่วงฤดูใบไม้ร่วง มาผิดที่ผิดเวลา มีเหตุผลอยู่นะคะ อย่างแรกเลยคือ ต๊ะซื้อดอกซากุระมา 2 แพค ตั้งแต่ประมาณเดือนมีนา ซื้อเสร็จก็ดูวันหมดอายุเสร็จสรรพ นึกในใจว่าดีจังเก็บได้ตั้งปีกว่า แต่ทว่าเมื่อไม่กี่วันมานี้เองต๊ะเห็นซองซากุระดอง แล้วพลิกดูวันหมดอายุ แป่ว มันหมดอายุไปแล้วค่ะ สรุปว่าที่ผ่านมาต๊ะดูวันที่แล้วคิดว่าเป็นปี แต่หมดอายุแล้วก็ไม่เป็นไรค่ะ เพราะปกติแล้วต๊ะก็กินของหมดอายุได้ถ้ามันไม่นานเกินควร และอีกเหตุผลหนึ่งก็คือซากุระหมักเกลือ (Preserved Sakura)หาซื้อได้ไม่ง่ายนอกญี่ปุ่น หรือแม้แต่ในญี่ปุ่นเองต้องบอกว่ามีขายแค่ช่วงฤดูใบไม้ผลิสั้นๆ เท่านั้น ถ้าใครอยากทำเมนูนี้อาจจะต้องมาหิ้วไปเอง หรือฝากเพื่อนที่มาเที่ยวดูดอกซากุระซื้อ ซึ่งก็ไม่ใช้จะทำกันได้ทันทีนะคะ แต่ถ้ามีโอกาสล่ะก็อย่าพลาดนะคะ

คุกกี้สูตรนี้เป็นคุกกี้ที่ทำง่าย ต่อให้คนที่ไม่เคยทำขนมมาก่อนก็ทำตามได้ไม่ยากเย็นค่ะ เนื้อคุกกี้จะค่อนข้างหวาน ชุมฉํ่า เบาแต่ไม่กรอบร่วนเหมือนคุกกี้เนยสูตรที่ต๊ะเคยทำนะคะ สำหรับเนื้อคุกกี้บางสูตรอาจจะใส่ดอกซากุระสับละเอียด หรือ sakura essence ลงไปในเนื้อคุกกี้ด้วย แต่ต๊ะไม่ได้ใส่ ต๊ะชอบให้เนื้อคุกกี้ออกหวานตัดกับรสเปรี้ยวเค็มของดอกซากุระ เป็นรสชาติที่น่าสนใจกว่าในความคิดของต๊ะนะคะ

เนื้อคุกกี้สูตรนี้ค่อนข้างเบาเพราะทำจากแป้งเค้ก ถ้าต้องการให้เนื้อแน่นกว่านี้ลองเปลี่ยนเป็นแป้งสาลีอเนกประสงค์นะคะ ต๊ะใช้นํ้าตาลทรายขาวธรรมดา เนื้อขนมจะค่อนข้างชุ่มฉํ่านะคะ ถ้าต้องการความแน่นกรอบก็เปลี่ยนเป็นนํ้าตาลไอซิ่งได้ตามความชอบของเรานะคะ

เอาล่ะค่ะตามมาดูสูตรคุกกี้ซากุระ (Sakura Cookies) ที่ต๊ะทำกินกับซาดาโอะ และโคชิดีกว่า อร่อยน้า

 2. เสร็จแล้วเอาวางลงบน paper towel เพื่อซับนํ้าออกไปนะคะ
 3. ตีเนยกับนํ้าตาลจนฟูเบาแล้วใส่ไข่แดงลงไป
 4. ตีไข่ให้เข้ากัน ส่วนผสมก็จะเปลี่ยนเป็นสีส้มอ่อนๆ
 5. เทแป้งเค้กลงไป แล้วใช้มือรวบผสม จนเข้ากันดี (แต่ไม่ต้องนวดนะคะ) เอา wrap ปิดแช่เย็นประมาณ 30 นาทีนะคะ
 6. โรยแป้งสาลีลงบนกระดานนวดแป้ง ใช้ rolling pin คลึงแป้งให้เป็นแผ่นหนาประมาณ 3 มิลลิเมตร ใช้พิมพ์ขนาดประมาณ 1.5 นิ้ว กดเป็นวงกลมนะคะ เสร็จแล้ววางดอกซากุระลงไป กดเบาๆ นะคะ กันดอกไม้หลุดเฉยๆ ถ้าแรงไปดอกไม้อาจมีจมได้นะคะ ต๊ะว่าวางเบาๆ ดอกไม้จะนูนๆ สวยกว่า

7. อุ่นเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศา อบคุกกี้จนสุก ใช้เวลาประมาณ 12-15 นาที เสร็จแล้วทิ้งให้เย็นบนตะแกรง

ที่ผ่านมาต๊ะเคยทำราเมนลง blog มาแล้วหลายต่อหลายครั้ง ครั้งนี้ก็น่าจะเป็นครั้งที่ 5-6 แล้ว ต้องสารภาพว่าเมนูราเมนไม่ใช่เมนูที่ popular ในบล็อกนี้เท่าไหร่หรอกนะคะ แต่ต๊ะก็อัพๆ เก็บไว้ ส่วนหนึ่งก็เก็บสูตรเอาไว้อ่านเอง และอีกเหตุผลหนึ่งก็คือต๊ะเชื่อว่าเมื่อทำอาหารญี่ปุ่นไปสักพัก จะเริ่มรู้สึกอยากทำราเมนไว้กินเองที่บ้าน และเมื่อลองทำครั้งแรกไปแล้วก็จะรู้ว่าไม่ได้ยากอย่างที่เห็น และจะมีครั้งต่อๆ ไป

เมนูวันนี้เป็นมิโซะราเมน ซึ่งต๊ะเคยลงสูตรไว้แล้วทั้งแบบง่ายและแบบโหด วันนี้จะต่างออกไปหน่อยก็คือเป็นมิโซะราเมนแบบเผ็ด เป็นความเผ็ดจากนํ้ามันพริกหรือ Rayu ในภาษาญี่ปุ่นนั่นเองค่ะ นํ้ามันพริกที่ขายในญี่ปุ่นนั้นดีกรีความร้อนแรงจะน้อยกว่านํ้ามันพริกที่ขายในจีน แต่ถ้าหานํ้ามันพรักที่ผลิตในญี่ปุ่นไม่ได้ก็ใช้จากจีนทดแทนได้ค่ะ 

นํ้าซุปวันนี้ทำจากดาชิผง หรือฮอนดาขิ ซึ่งเป็นเครื่องปรุงที่ใช้ทำนํ้าซุปต่างๆ ทำจากปลาแห้ง ใช้เวลาเตรียมสั้นมากเพียงแค่ 10 นาทีเท่านั้นเองค่ะ ส่วนรสชาตินั้นต๊ะคงบอกไม่ได้ว่าอร่อยเหมือนเคี่ยวนํ้าซูปราเมนเอง (หลายชั่วโมง) หรือเหมือนนํ้าซุปตามร้านราเมน แต่ถ้าเทียบกับความพยายามและเวลาที่ใช้ในการเตรียม ถือว่าอร่อยมากๆๆ

ส่วนผสมอีกอย่างนึงที่ขาดไม่ได้คืองาขาวคั่ว ซึ่งเราจะเอามาบดแล้วใส่นํ้าซุป ซึ่งงามาคั่วเองและบดอันนี้หอมที่สุด ดีที่สุดค่ะ 

เอาล่ะค่ะตามมาดูสูตรสไปซี่ส์ มิโซะราเมน (Quick & Easy Spicy Miso Ramen) ที่ต๊ะทำกินกับซาดาโอะและโคชิดีกว่า อร่อยน้า

ส่วนผสม

นํ้าเปล่า 950 มล.

ฮอนดาชิ 1.5 ช้อนชา

มิโซะขาว 4 ช้อนโต๊ะ

โชยุ 1/2 ช้อนโต๊ะ

นํ้ามันพริก (Rayu) 4 ช้อนชา

งาขาวคั่วบด 1 ช้อนโต๊ะ

เม็ดข้าวโพดต้มสุก 1/2 ถ้วย

ไข่ต้ม

นารุโตะมากิ (ลูดชิ้นปลาญี่ปุ่นที่มีลายสีชมพู)

ต้นหอมซอย

topping ต่างๆ ตามชอบ

เส้นราเมนสำหรับ 2 ที่

วิธีทำ

1. เอานํ้าเปล่าตั้งไฟให้เดือด ใ่ส่ฮอนดาชิลงไป ต้มไปเรื่อยๆ ประมาณ 2-3 นาทีให้นํ้าลดลงนิดหน่อย

2. ใส่มิโซะขาวลงไป ลดไฟลง
3. เติมงาขาว Rayu ลงไป

4. ต้มเส้นราเมน แล้วตักใส่ถ้วย ราดนํ้าซุปลงไป วางท็อปป้้ง เสร็จแล้วเสิร์ฟได้ค่ะ ลองทำกันดูนะคะ

ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงถึงฤดูหนาวในญี่ปุ่นมีของอร่อยๆ มากมาย เลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นมันเทศ เกาลัด ปลาซัมมะ มีมากมาย ช่วงนี้มักจะเป็นช่วงที่ใครต่อใครหลายคนมักจะนํ้าหนักขึ้นกัน วันนี้ต๊ะมากับเมนูเบาๆ อย่างโซบะร้อนใส่ผักภูเขาค่ะ ใครที่มีแผนจะมาญี่ปุ่นในช่วงนี้ลองมาหาตามร้านโซบะทั่วๆ ไปนะคะ รับรองมีแทบทุกร้าน

รู้จักผักภูเขา หรือที่ในภาษาญี่ปุ่นเรียกกันว่าซังไซ Sansai กันรึเปล่าคะ ซังไซเป็นผักป่า ผักภูเขาซึ่งขึ้นเองตามธรรมชาติ ต้องเข้าป่าไปเก็บมากิน เทียบได้กับผักพื้นบ้านหรือผักป่าของไทยนี่ล่ะค่ะ แต่ในปัจจุบันความนิยมผักภูเขามีมากขึ้นเรื่อยๆ ผักภูเขาที่เห็นขายๆ กัน ส่วนมากก็จะเป็นผักภูเขาที่เพาะขึ้นใหม่ในฟาร์ม โดยเน้นให้ผักเติบโตในสภาพที่ใกล้เคียงกับธรรมชาติมากที่สุด .โดยทั่วไปตามซุปเปอร์มาเก็ตมักจะขายเป็นผักภูเขาต้มแล้วเอามาดอง แพคใส่ถุงขาย ซื้อหากันได้สะดวกสบาย

ต๊ะคิดว่าผักภูเขาน่าจะเป็นของหายากนอกญี่ปุ่น แต่ต๊ะก็เห็นว่าน่าจะแทนกันได้ด้วยผักพื้นบ้านของไทย อย่างผักหวาน หน่อไม้ เอามาต้มแล้วใส่เกลือสักหน่อย น่าจะอร่อยและเข้ากันนะคะ และอีกอย่างผักภูเขาสามารถทำเองได้ไม่ยากนัก ใครสนใจลองดูข้อมูลที่นี่นะคะ ต๊ะเองถ้าเจอผักสดๆ เหมาะๆ ก็ว่าจะลองดูเหมือนกันค่ะ 

โซบะร้อนใส่ผักภูเขาร้อยทั้งร้อยจะไม่ใส่เนื้อสัตว์ในนํ้าซุปนะคะ จะเน้นให้ซุปใส ซดร้อนๆ คล่องคอมาก ส่วน topping อื่นๆ ต๊ะเพิ่ม tenkasu แป้งเทมปุระกรุบกรอบลงไปด้วย ถ้าใครอยากให้เป็นเมนูสุขภาพเต็มร้อยไม่ต้องใส่ก็ได้นะคะ 

เอาล่ะค่ะ ตามมาดูสูครโซบะร้อนใส่ผักภูเขา (Sansai Soba) ที่ต๊ะทำกินกับซาดาโอะ และโคชิดีกว่า อร่อยน้า

ส่วนผสม สำหรับ 2 ที่

นํ้าซุป 

ดาชิ 800 มล.

มิริน 2 ช้อนโต๊ะ

โชยุ 3 ช้อนโต๊ะ

เส้นโซบะ สำหรับ 2 ที่

วิธีทำ

1. เตรียมนํ้าซุป ตั้งดาชิให้เดือดแล้วเต้มมิริน โชยุ ลงไป 

2. ต้มนํ้าในหม้อใหญ่ๆ ใส่นํ้าเยอะๆ นะคะ รอให้นํ้าเดือดพล่านค่ะ เสร็จแล้วใส่เส้นลงไปค่ะ เสร็จแล้วลดไฟลงพอให้นํ้าเดือดปุดๆ นะคะ (ขอเอารูปเก่าจาก โซบะเย็น มาลงนะคะ)

3. ต้มโซบะตามเวลาที่ระบุไว้ข้างหลังซองค่ะ แต่จากประสบการณ์แล้วต๊ะว่าต้องต้มมากกว่าที่เค้าบอกประมาณ 1-2 นาทีนะคะ เสร็จแล้วเทเส้นใส่กระชอนเอานํ้าล้างเส้นให้หายเหนียวนะคะ ชงเส้นขึ้นพักให้สะเด็ดนํ้า

วันศุกร์กลับมาพบกับเมนูเบนโตะเหมือนเคยนะคะ วันนี้มาทำข้าวหน้าสุกี้ยากี้ใส่เบนโตะกันดีกว่าค่ะ สุกี้ยากี้เป็นเมนูอาหารญี่ปุ่นสุดคลาสสิค ที่หลายคนชื่นชอบ และคุ้นเคยกันเป็นอย่างนะคะ ตอนที่ทำความรู้จักกับอาหารญี่ปุ่นใหม่ๆ ต๊ะมักจะสับสนระหว่าง ชาบู ชาบู นาเบะ และ สุกี้ยากี้ อยู่เป็นประจำ ต้องใช้เวลาทำความเข้าใจกับอาหารทั้งสามอย่างอยู่ประมาณนึง (ก็ลองชิมดูนั่นแแหละค่ะ) พอหลังๆ ได้มาลองทำเอง จึงได้รู้จักและเข้าใจความแตกต่าง

พูดถึงสุกี้ยากี้แล้วเป็นเมนูที่เหมาะสำหรับทำใส่เบนโตะอยู่ไม่น้อยนะคะ ทั้งรสชาติเข้มข้น ปริมาณเนื้อสัตว์พอเหมาะ ให้พลังงานมากพอสำหรับมื้อกลางวัน ส่วนมากสุกี้ยากี้จะใส่เนื้อวัว แต่ในบางที่ของญี่ปุ่นก็ใช้เนื้อหมูเหมือนกันนะคะ ถ้าใครไม่ทานเนื่อวัวสามารถเปลี่ยนเป็นเนื้อหมูได้ค่ะ 

จุดอ่อนของเนื้้อวัวเมื่อนำมาปรุงใส่เบนโตะก็คือเวลาที่เย็นลง เนื้อวัวจะแข็ง และบางทีอาจเป็นไขไม่น่ากิน เราสามารถแก้ไขได้ด้วยการโรยเบคกิ้งโซดาบางๆ ให้ทั่ว ทิ้งไว้ประมาณ 5 นาทีแล้วล้างออก ก่อนนำเนื้อไปปรุง เนื้อก็ไม่แข็งแห้งเวลาเย็นลงค่ะ หรืออาจจะปรับวีธีการปรุงด้วยการหมักเนื้อวัวกับเครื่องปรุง อย่างโชยุ มิริน นํ้าตาล แล้วค่อยเอาเนื้อไปผัดก็จะช่วยให้เนื้อนิ่ม กินเย็นๆ ก็ยังอร่อยค่ะ สูตรด้านล่างเป็นวิธีปรุงแบบธรรมดานะคะ คือต๊ะและคนอื่นๆ ในบ้านค่อนข้างชินกับกับกินอาหารที่อุณหภูมิห้อง อาหารแข็งนิดหน่อยรับได้หายห่วงค่ะ 

เอาล่ะค่ะ ตามมาดูสูตรสุกี้ยากี้เบนโตะ (Sukiyaki Bento) ที่ต๊ะทำกินกับซาดาโอะ และโคชิดีกว่า อร่อยน้า 

 ส่วนผสม

ข้าวญี่ปุ่นหุงสุก สำหรับ 2 ที่

ต้นหอมญี่ปุ่น 1/4 ต้น หั่นเป็นท่อนสั้น

เนื้อวัว 100 กรัม

เห็ดหอมสดผ่าครึ่ง 1 ดอก

เส้นชิราตากิ

โชยุ 2 ช้อนโต๊ะ

มิริน 1 ช้อนโต๊ะ

นํ้าตาล 1 ช้อนชา

นํ้าเปล่า 2 ช้อนโต๊ะ

นํ้ามัน 1 ช้อนชาสำหรับผัด

ไข่หวาน/ไข่ม้วนญี่ปุ่น (Tamagoyaki)

วิธีทำ

1. ตั้งกระทะใส่นํ้ามัน ใส่ต้นหอม(ต้นหอมญี่ปุ่นสุกยาก ใส่ก่อนเป็นดีค่ะ) ใส่เนื้อลงผัดพอสุด จากนั้นใส่เห็ด เส้นชิราตากิ ตามด้วยเครื่องปรุงทั้งหมด ผิดพอเข้ากัน 

2. ตักข้าวใส้ถ้วย แล้วราดด้วยส่วนผสมข้อ 1 เป็นอันเสร็จค่ะ 

มาทำข้าวต้มญี่ปุ่นร้อนๆ แสนอร่อยกันดีกว่านะคะ จริงๆ แล้วเมนูข้าวต้มเป็นเมนูที่คุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว แต่ทำไมวันนี้ต๊ะถึงมาชวนทำ แน่นอนว่าอย่างแรกก็คือขอเอาสูตรมาฝากคนที่ซื้อข้าวสารญี่ปุ่นถุงใหญ่ๆ มาหุงข้าวสวย  หรือ ข้าวซูชิ แล้วก็ยังมีข้าวเหลืออยู่มาก อย่างลองเปลี่ยนบรรยากาศบ้าง ข้าวต้มญี่ปุ่นจะรสหวานกว่าและนุ่มกว่าโดยธรรมชาติ และถ้าทำเยอะหน่อยก็แบ่งใส่ถ้วยเล็กๆ แช่แข็งไว้ เอามาอุ่นอีกรอบก็จะกลายเป็นโจ๊กร้อนๆ ที่เนื้อไม่เละมาก ซึ่งส่วนตัวต๊ะว่าอร่อยและหอมกว่าโจ๊กที่ทำจากปลายข้าวนะคะ แถมย้งเตรียมง่ายไม่ยุ่งยากเลย

จริงๆ แล้วข้าวต้มญี่ปุ่นสามารถเตรียมได้หลายแบบนะคะ ถ้าชอบแบบถ้วยเดียวจบจะต้มใส่ดาชิ แล้วปรุงรสด้วยโชยุ เพิ่มหมูสับ ไก้ ผักเข้าไปเป็นข้าวต้มทรงเครื่องก็ได้นะคะ แต่ข้าวต้มเปล่าๆ ก็กินง่าย คล่องคอดีเวลาอากาศหนาว หรือเราไม่สบาย วันนี้มีกับข้าวง่ายๆ คือ แซลมอนหมักเกลือ  บ๊วยดอง อ้อเมนูนี้เหมาะจะทำให้คนท้องด้วยนะคะ เพราะย่อยง่าย คล่องคอ ไม่ต้องกลัวว่ากินแล้วจะคลื่นไส้ แน่นท้อง

วิธีต้มข้าวให้อร่อยมีเคล็ดลับง่ายๆ คือการใช้หม้อดินเผาหรือ clay pot หม้อดินเผาเนื้อหนาให้ความร้อนไม่สัมผัสกับอาหารโดยตรง ข้าวจะสุกทั่ว อร่อยค่ะ ถ้าใครไม่มีหม้อดินเผาก็ใช้หม้อธรรมดาที่เนื้อหนาสักหน่อยก็พอทดแทนกันได้นะคะ แต่ถ้าใครทำอาหารบ่อยต๊ะว่ามันคุ้มมากที่จะซื้อ เพราะใช้ทำอาหารได้สารพัดสารพัน ไม่ว่าจะเป็น ชาบู ชาบู นาเบะทะเล อุด้งหม้อไฟ หรือ อาหารไทยอย้าง กุ้งอบวุ้นเส้น ถือว่าลงทุนครั้งเดียวคุ้มค่ามากค่ะ หม้อดินเผาที่ต๊ะซื้อมาก็ใช้ดีและทนทานมาก 6 ปีก็ยังเหมือนเดิม มีโอกาสก็ลองหาซื้อกันมาใช้ดูนะคะ 

เอาละคะตามมาดูสูตรข้าวต้มญี่ปุ่น (Okayu/ Japanese Porridge) ที่ต๊ะทำกินกับซาดาโอะ และโคชิดีกว่า อร่อยน้า

ส่วนผสม สำหรับ 1 ที่

ข้าวสารญี่ปุ่น 50 กรัม

นํ้าเปล่า 250 มล.

กับข้าว แซลมอนหมักเกลือ 

วิธีทำ

1. แช่ข้าวไว้ประมาณ 2 ชั่่วโมงนะคะ เสร็จแล้วซาวข้าวสัก 2 รอบ เทใส่กระชอนให้สะเด็ดนํ้า

2. เทข้าวลงในหม้อดิน เทนํ้าใส่ลงไป ปิดฝาแล้วตั้งไฟให้เดือด แล้วใช้ทัพพีคนๆ ดูอย่าให้ข้าวติดก้นหม้อนะคะ

3. ลดไฟลงเป็นไฟอ่อน ต้มต่อไปเรื่อยๆ ประมาณ 20 นาที จนข้าวสุก เสิร์ฟได้ค่ะ
ถ้าเราต้มต่อไปเรื่อย ๆ จะเป็นยังไง? เราก็จะได้โจ๊กสไตล์ฮ่องกงไงคะ เตืมเครื่องใน เติมหมูสับปรุงรสซะหน่อย ลองทำกันดูนะคะ

เข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วงกันอีกครั้ง อีกปีแล้วนะคะ ตอนนี้กลางวันเริ่มสั้นขึ้น ความมืดก็อยู่นานขึ้น 6 โมงเช้าก็ยังมืดอยู่เลยนะคะ อากาศเริ่มเย็นลงๆ และต๊ะเองก็เริ่มรู้สึกอยากกินอาหารร้อนๆ อย่าง ชาบู ชาบู  อุด้งหม้อไฟ สุกี้ยากี้ แต่ทั้ง 3 เมนู ต๊ะทำค่อนข้างบ่อยแล้ว วันนี้ก็ขอนำเสนอนาเบะ หรือ hot pot แบบญี่ปุ่นดูบ้างนะคะ 

ที่ผ่านมาทุกครั้งที่ทำนาเบะต๊ะจะไม่ค่อยได้ใส่ใจรายละเอียดมากเท่าไหร่ ส่วนมากจะใส่ดาชิ แล้วก็หัวไชเท้า ผักกาดขาว ลูกชิ้น เนื้อสัตว์แล้วแต่จะหาได้ นํ้าซุปก็จะรสชาติอ่อน อาศัยกินกับนํ้าจิ้มรสจัดๆ หน่อย วันนี้มาแนวมีสูตรเป็นเรื่องเป็นราวหน่อยนะคะ นาเบะวันนี้เป็นนาเบะทะเล รสชาติกลมกล่อม นํ้าซุปจากดาชิ โชยุ และมิรินค่ะ เนื้อสัตว์ที่ใส่มีไก่และอาหารทะเลรวมมิตรค่ะ ไก่วันนี้เป็นไก่ติดกระดูก เพราะอยากได้รสหอมอร่อยจากกระดูกไก่ค่ะ เพราะอยากได้ซุปใสๆ ไขมันไม่มากเกินควร แถมแทะก็ไม่ยากจนเกินไปนะคะ 

อาหารทะเลวันนี้ต๊ะใช้ปูม้าตัวเล็ก (พอจะมองเห็นในหม้อไหมคะ) ปลาค็อด กุ้งหวานญี่ปุ่น หอยเชลล์ค่ะ ตรงนี้ใครมีอาหารทะเลแบบไหน จะใช้กุ้งขาวอะไรก็ได้หมด แต่แนะนำนิดหน่อยนะคะว่าควรจะใช้ปริมาณใกล้เคียงจะได้นํ้าซูปที่กลมกล่อมลงตัว

อาหารทะเลในภาพมันดูจมไปนิดหน่อย แต่จริง ๆ ใส่ไม่น้อยนะคะ อาจจะรีบไปนิดหน่อยตอนถ่ายรูป เพราะเลยเวลาอาหารกลางวันมาประมาณนึงแล้ว ก็เลยไม่ได้ระวังเรื่องการจัดวางเท่าไหร่ 

เอาล่ะค่ะตามมาดูสูตรนาเบะทะเล (Seafood Nabemono) ที่ต๊ะทำกินกับซาดาโอะ และโคชิดีกว่า อร่อยน้า

ส่วนผสม (สำหรับนาเบะ 2 หม้อ หรือประมาณ 2-3 ที่นะคะ)

ดาชิ 800 มล.

มิริน 50 มล.

โชยุ 40 มล.

ผักกาดขาว 220 กรัม หั่นพอคำ

หอยเชลล์ 4 ตัว ประมาณ 120 กรัม

ปลาค็อดหั่นชิ้น เอาก้างออกนะคะ 2 ชิ้น ประมาณ 80 กรัม

ปูม้า 2 ตัว ตัวเล็กมากประมาณ 70 กรัมนะคะ

ต้นหอมญี่ปุ่น (Tokyo Negi) 1 ต้น หั่นเป็นท่อนสั่นๆ นะคะ

เห็ดหอม 4 ดอก

เห็ดชิเมะจิเล็กน้อย ต๊ะลืมชั่งนํ้าหนัก ขอโทษทีนะคะ

ปีกไก่ 4 ปีก

วิธีทำ

1.ผสมดาชิกับมิริน และโชยุแล้วพักไว้ แบ่งส่วนผสมทุกอย่างเป็น 2 ส่วนเท่าๆ กันนะคะ แบ่งทุกอย่างลงในหม้อ 2 ใบ หรือถ้ามีหม้อใหญ่พอใส่ทั้งหมดจะใส่หมดก็ได้ค่ะ เวลาเสิร์ฟค่อยตักแบ่งในถ้วยเล็กๆ เอา

2.วางผักกาดขาวที่ก้นหม้อ ตักดาชิในข้อ 1 ใส่สงไป แล้วตามด้วย ไก่
 3.. เติมอาหารทะเล ต้มหอม เห็ด ตั้งไฟให้เดือด จนทุกอย่างสุก จัดให้สวยงาม เสิร์ฟได้ค่ะ
ลองทำกันดูนะคะ



ปล. นาเบะทะเลสูตรนี้โพสต์ครั้งแรก วันที่ 11 ก.ค. 2016 อัพเดทครั้งที่ 1 วันที่ 11 ก.พ. 2019

จานต่อมาเป็นยำอะโวคาโดรสชาติจัดจ้าน และเมนูนี้เป็นเมนูที่ทำให้ร้านนี้น่าสนใจ ทางร้านเอาส่วนผสมที่มีในญี่ปุ่นมาใ่ส่ลงไปในอาหารไทย จริงๆ ภาพเบลอมากแต่ต๊ะอยากให้ลองจริงๆ นอกจากยำแล้วเท่าที่ต๊ะเห็นก็มีแกงเขียวหวานอะโวคาโดอีกหนึ่งอย่าง ต้องลองนะคะ อันนี้เหมาะสำหรับคนที่มาเที่ยวญี่ปุ่นแล้วเบื่ออาหารญี่ปุ่นหรือคิดถึงอาหารไทยขึ้นมา เพราะถ้าสั่งเมนูพื้นๆ อย่างผัดไทยจะอดเปรียบเทียบกับผัดไทยที่เมืองไทยไม่ได้ สู้มาชิมเมนูใหม่ๆ ดีกว่านะคะ