ผงพะโล้เหลือนึกเมนูไม่ออก มาทำไก่ย่างผงพะโล้กันนะคะ 

ปีกไก่ย่างผงพะโล้
ส่วนผสม
กระเทียมจีนสับ 1 กลีบ
ผงพะโล้ ¼ ช้อนชา
ซีอิ้วขาว ½ ช้อนโต๊ะ
น้ำมันหอย ¼ ช้อนโต๊ะ
น้ำผึ้ง ¼ ช้อนโต๊ะ
น้ำมันงา ¼ ช้อนชา
ช่วงที่ทำอาหารกินที่บ้านบ่อย ๆ รัว ๆ แบบนี้ หลายคนอาจจะไม่มีกำลังพอที่จะทำอาหารหลาย ๆ อย่างเหมือนต๊ะ หรืออย่างน้อยก็มีสักช่วงที่แบตหมด แต่ก็อยากสร้างสีสัน ลูกเล่นบนโต๊ะอาหาร เราทำได้ค่ะ ถึงจะทำแค่เมนูเดียวก็ทำได้ มือกลางวันวันนี้ต๊ะจัดปาร์ตี้เกี๊ยวซ่าขำ ๆ กัน 3 คน ทำเมนูเดียวปริมาณทะลัก ๆ แต่ห่อเกี๊ยวซ่าหลาย ๆ แบบหน่อย อาหารมื้อนี้ก็ดูสนุกขึ้นแล้วค่ะ
ต๊ะเคยกินเกี๊ยวซ่าเป็นอาหารอย่างเดียวครั้งแรกที่ร้านอาหารจีนแถวสีลม น่าจะนานเป็นเกือบ 20 ปีมาแล้วล่ะค่ะ เกี๊ยวซ่าต้ม เกี๊ยวซ่านึ่ง เกี๊ยวซ่าทอด สารพัดอย่าง ถ้าจำไม่ผิดน่าจะมีสัก 6 เมนู เป็นการกินอาหารในร้านเกี๊ยวซ่าโดยเฉพาะครั้งแรกก็ว่าได้ สนุกและอร่อยกว่าที่คิดไว้มาก โอยพูดแล้วก็อยากกลับไปกินค่ะ
ชอบไก่ทอดเกาหลี ไก่เผ็ดเกาหลีกันไหมคะ ไก่ทอดเนื้อนุ่ม ๆ ชุ่มฉํ่า กรอบนอกนุ่มใน ราดซอสข้นเหนียวรสเผ็ดหวาน เปรี้ยวนิด หอมงาขาวคั่ว เสิร์ฟร้อน ๆ ต๊ะว่าไม่มีอะไรสู้ เสิร์ฟเย็นก็ยังอร่อย ถ้าชอบไก่เผ็ดเกาหลีแต่ไม่อยากทอดนํ้ามันเยอะ มาถูกที่แล้วค่ะ วันนี้ต๊ะก็ไม่ได้ทอดเหมือนกัน แต่ปกติก็กินอาหารทอดนะคะ ชอบมากด้วย แต่วันนี้จะย่างค่ะ เพราะถึงจะใช้เวลามากกว่าการทอด แต่ข้อดีก็คือระหว่างที่ย่างเราเอาเวลาไปทำอย่างอื่นได้ ถ้าเราย่างด้วยเตาไฟฟ้า อย่างวันนี้ต๊ะก็รีดผ้า ซักผ้าไปด้วย ช่วงนี้จะหัวฟูนิดหน่อยเพราะว่าวันพฤหัสต้องไปต่างจังหวัด
ข้อดีของการย่างก็คือเราไม่ต้องกินนํ้ามันเยอะ เพราะนํ้ามันส่วนเกินจะหายไประหว่างย่าง ส่วนข้อจำกัดก็คือเนื้อสัตว์ที่ผ่านการย่างจะชุ่มฉํ่าน้อยกว่าการทอด เพราะนํ้าจะหายไประหว่างย่างมากกว่าการทอด แต่เราก็มีวิธีทำให้ไก่ของเรานุ่มไม่ต่างกับการทอดได้ค่ะ ไม่ว่าจะเป็นการหมัก หรือการราดสาเกลงไป วันนี้เราจะใช้การราดสาเกนะคะ ราดทิ้งไว้ 10 นาที แล้วใช้ paper towel ซับให้แห้ง จะช่วยให้ไก่ของเรากรอบนอกนุ่มใน อย่างข้ามสเต็ปนี้เด็ดขาดนะคะ
พึ่งบ่นไปให้ฟังกันไปไม่นานนี้เองถึงความร้อนของอากาศในหน้าร้อน เวลาผ่านไปไวเหมือนทุกปีหลังจากเราอายุ 25 ตอนนี้เป็นปลายซัมเมอร์แล้วค่ะ อากาศก็ไม่ร้อนจัดแล้ว หน้าตาอาหารที่วางขายก็จะเริ่มเปลี่ยน ปูม้าที่เคยวางขายเต็มก็เริ่มน้อยและถูกแทนที่ด้วยปูซูวาอิ ผลไม้หน้าร้อนต่าง ๆ ก็เริ่มน้อยลง ต๊ะกินอาหารหน้าร้อนเกือบครบแล้ว ขาดอย่างเดียวจริง ๆ คือข้าวหน้าปลาไหล และยังสองจิตสองใจอยู่ว่าจะกินที่ร้านหรือซื้อที่ย่างแล้วตามซุปเปอร์มาอุ่นกินที่บ้านดี
เมนูวันนี้เป็นเมนูรับฤดูใบไม้ร่วงที่กำลังจะเข้ามาถึง เป็นแซลมอนห่อฟอยล์ย่างกับเห็ดซึ่งเป็นผักที่หาได้ง่ายในฤดูใบไม้ร่วง (จริง ๆ หาได้ทั้งปี แต่ช่วงนี้จะเยอะเป็นพิเศษ และราคาจะถูกกว่าช่วงอื่น) วันนี้เราจะห่อฟอยล์และย่างใน toaster นะคะ เป็นเมนู่เอาใจคนอยู่หอ หรืออพาร์ทเมนต์เล็ก ๆ ที่มีเครื่องครัวจำกัด ใช้เวลาเพียง 10 นาทีในการย่าง ทำเสร็จราดด้วยซอสพอนสึ ซอสรสเค็มเปรี้ยว อันนี้จะซื้อหามาหรือทำเองก็ได้ค่ะ เอาที่สะดวก สำหรับต๊ะสะดวกทั้งสองอย่าง จะซื้อพอนสึมาก็ได้ใช้กับเมนูอื่น ๆ อีกหลายอย่าง บางทีก็ทำเองบ้างเพราะส่วนผสมไม่เยอะ และใช้เวลาไม่นาน
วันจันทร์ที่ผ่านมาชีวิตยุ่งเหยิงมากและไม่สบายนิดหน่อย ขออภัยที่ไม่ได้เข้ามาอัพบล็อกนะคะ อาทิตย์นี้ขอเปลี่ยนเป็นวันพุธกับศุกร์แทนแล้วกันนะคะ
เอาล่ะค่ะ ตามมาดูสูตรแซลมอนย่างผักฤดูใบไม้ร่วง (Grilled Salmon with Autumn Vegetable) ที่ต๊ะทำกินกับซาดาโอะ และโคชิดีกว่า อร่อยน้า
ส่วนผสม สำหรับ 2 ที่
แซลมอน 2 ชิ้น ขนาดไม่ต้องใหญ่มากนะคะ
เห็ดเข็มทอง 80 กรัม
เห็ดชิเมจิ 100 กรัม
เห็ดหูหนูนิดหน่อย
พริกหวาน 1 ลูก
สาเก 2 ช้อนชา
มิริน 2 ช้อนชา
ซอสพอนสึ
โชยุ 5 ช้อนโต๊ะ
Mizkan Rice Vinegar 2 ช้อนโต๊ะ
นํ้าเลมอน 1 ช้อนโต๊ะ
มิริน 1 ช้อนชา
ต้นหอมซอยนิดหน่อย
Mizkan Rice Vinegar 2 ช้อนโต๊ะ
นํ้าเลมอน 1 ช้อนโต๊ะ
มิริน 1 ช้อนชา
ต้นหอมซอยนิดหน่อย
วิธีทำ
1. ผสมส่วนผสมซอสให้เข้ากันแล้วพักไว้
2. แบ่งเห็ดและพริกหวานเป็น 2 ส่วน
3. วางฟอยล์ลงบนจาน วางส่วนผสมทั้งหมดลงไป ราดสาเกและมิริน รวบฟอยล์ปิดด้านบน เอาไปย่างใน toaster 10 นาที
4. เสิร์ฟกับซอสพอนสึ
ลองทำกันดูนะคะ
สวัสดีค่า กลับมาพบกับเมนูหอยนางรมกันอีกครั้งนะคะ ถ้าตามอ่านกันมานานจะรู้ว่าต๊ะอัพเมนูหอยนางรมบ่อยเหมือนกัน ทั้ง ๆ ที่จริง ๆ แล้วก่อนย้ายมาญี่ปุ่นต๊ะกินหอยนางรมน้อยมาก เมนูที่กินก็วน ๆ แค่ออส่วน หอยทอด และไข่เจียวหอยนางรม พอย้ายมาอาหารก็ต้องทำเองเป็นส่วนมาก ได่้วัตถุดิบมาก็มากูเกิลดูว่าเค้าเอาไปทำอะไรกินกันบ้าง บ้างก็กางตำรา บ้างก็ถามพนักงานในซุปเปอร์บ้าง ลองมาแล้วทั้งชุบเกล็ดขนมมปังทอด ทำซุป อร่อยหมด
วันนี้จะมาลองทำเทอริยากิดูบ้าง สูตรซอสใกล้เคียงกับซอสเทอริยากิทั่วไปนะคะ แต่่มีใส่กระเทียมกับขิงเพื่อลดกลิ่น (ที่อาจมี)ผักที่เสิร์ฟคู่กันวันนี้คือมะเขือเทศสด และผักปวยเล้งต้มแล้วบีบนํ้าออก ใส่นํ้ามันงา เกลือ และงาขาคั่วนิดหน่อย ทำคล้าย ๆ side dish อาหารเกาหลี แต่ตัดกระเทียมออกไป ใครจะลองทำตามก็ได้นะคะ ง่ายมาก ๆ ทำเสร็จจะใส่เบนโตะก็เหมาะ
วิธีล้างหอยนางรมให้สะอาดคือล้างในนํ้าเกลือที่มีปริมาณเกลือใกล้เคียงกับนำ้ทะเล นั่นคือ 3 เปอร์เซ็นต์ (นํ้า 1000 มล. ต่อเกลือ 30 กรัม) ที่ต้องเป็นนํ้าเกลือก็เพราะถ้าเราใช้นํ้าเปล่า นํ้าจะออสโมซิสเข้าไปในเนื้อหอยที่มีนํ้าทะเลอยู่ข้างใน ตามกฏการออสโมซิส จะทำให้เนื้อหอยจืดเพราะนํ้าซึมเข้าไป แต่ถ้าใส่เกลือเท่ากับปริมาณเกลือในทะเลก็จะไม่มีการออสโมซิสเกิดขึ้น หอยนางรมจะทั้งสะอาดและคงรสชาติเดิม ลองเก็บวิธีนี้ไปใช้กันดูค่ะ
เอาล่ะค่ะ ตามมาดูสูตรหอยนางรมย่างเทอริยากิ ที่ต๊ะทำกินกับซาดาโอะ และโคชิดีกว่า อร่อยน้า
ส่วนผสม
หอยนางรม 50 กรัม
แป้งมันนิดหน่อย
โชยุ 1 ช้อนโต๊ะ
มิริน 1 ช้อนโต๊ะ
สาเก 1 ช้อนโต๊ะ
นํ้าตาล 1 ช้อนชา
กระเทียม 1 กลีบ
ขิงสด 1 แว่น (3 กรัม)
นํ้ามัน 0.5 ช้อนโต๊ะ
นํ้าเกลือ
วิธีทำ
1. เอาหอยนางรมแช่ในนํ้าเกลือประมาณ 5 นาที เสร็จแล้วเอามือจับแกว่ง ๆ ในนํ้าเพื่อล้างเศษดิน
2. เสร็จแล้วใช้ paper towel ซับให้แห้ง
3. โรยแป้งมันให้ทั่ว
4. ตั้งกระทะใส่นํ้ามัน ใส่กระเทียมกับขิงลงไปผัด ใส่หอยนางรมลงไปทอดให้ด้านนอกเป็นสีนํ้าตาลอ่อน ๆ
5.ใส่โชยุ สาเก มิรินลงไป รอให้นํ้าตาลละลายและซอสข้นเล็กน้อย เป็นอันเสร็จค่ะ
ลองทำกันดูนะคะ
และแล้วฤดูใบไม้ร่วงก็เดินทางมาถึงโตเกียวแล้วค่ะ ฃ่วงนี้อากาศก็จะเริ่มเย็น มีสายฝนโปรยปราย พระอาทิตย์ตกเร็วขึ้น อาหาศหนาวนิด ๆ ในบางวัน ถึงจะมีแอบเบื่อฝนบ้างแต่ก็ถือว่าเป็นช่วงที่อากาศกำลังสบาย ๆ นะคะ หายใจโล่งมากเมื่อเทียบกับหน้าร้อน
ฤดูใบไม้ร่วงเป็นฤดูแห่งกีฬาในญี่ปุ่น เพราะอากาศกำลังดี ไม่หนาว ไม่ร้อนมาก ฃ่วงนี้ถ้าเดินออกไปข้างนอกก็จะเห็นคนออกมาพายเรือยางบ้าง ตกปลาบ้าง วิ่งจ๊อกกิ้งอะไรบ้าง และช่วงนี้โรงเรียนหลายแห่งจะจัดกีฬาสีกัน บรรยากาศรอบตัวสดชื่นและคึกคักทีเดียวค่ะ
นอกจากเป็นช่วงที่มีการแข่งกีฬาเยอะแล้ว ช่วงนี้ยังเป็นเวลาของอาหารอร่อย ๆ หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นมันเทศ ฟักทอง ปลาข้าวสาร และปลาซัมมะ ปลาที่จะนำเสนอในวันนี้ึึค่ะ :ซัมมะเป็นปลาดาบแห่งฤดูใบไม้ร่วง เป็นสัญลักษณ์ของฤดู โดยปกติแล้วนิยมเอามาย่างเกลือ ปรุงกันง่าย ๆ ใช้เครื่องปรุงไม่มากมาย แค่ได้ปลาสด ๆ เนื่อมัน ๆ ก็อร่อยเหาะ แต่่ยังมีวิธีปรุงซัมมะอีกมากมายหลายอย่าง วันนี้จะมาประเดิมด้วยซัมมะย่างเทอริยากิ ง่าย ๆ แต่รับประกันความอร่อยค่ะ
ซอสเทอริยากิวันนี้ไม่เหมือนกับซอสสูตรอื่นที่เคยลงไปนะคะ มีใส่นํ้ามันงาลงไปเพื่อความหอม โรยงาขาวคั่วก่อนเสิร์ฟสักหน่อย เข้ากันเป็นที่สุดค่ะ ใครที่พอหาซื้อซัมมะได้และอยากลองปรุงซัมมะแบบอื่นนอกจากย่างเกลือ ต้องลองค่ะ
เอาล่ะค่ะ ตามมาดูสูตรปลาซัมมะย่างเทอริยากิ ที่ต๊ะทำกินกับซาดาโอะ และโคชิดีกว่า อร่อยน้า
นอกจากเป็นช่วงที่มีการแข่งกีฬาเยอะแล้ว ช่วงนี้ยังเป็นเวลาของอาหารอร่อย ๆ หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นมันเทศ ฟักทอง ปลาข้าวสาร และปลาซัมมะ ปลาที่จะนำเสนอในวันนี้ึึค่ะ :ซัมมะเป็นปลาดาบแห่งฤดูใบไม้ร่วง เป็นสัญลักษณ์ของฤดู โดยปกติแล้วนิยมเอามาย่างเกลือ ปรุงกันง่าย ๆ ใช้เครื่องปรุงไม่มากมาย แค่ได้ปลาสด ๆ เนื่อมัน ๆ ก็อร่อยเหาะ แต่่ยังมีวิธีปรุงซัมมะอีกมากมายหลายอย่าง วันนี้จะมาประเดิมด้วยซัมมะย่างเทอริยากิ ง่าย ๆ แต่รับประกันความอร่อยค่ะ
ซอสเทอริยากิวันนี้ไม่เหมือนกับซอสสูตรอื่นที่เคยลงไปนะคะ มีใส่นํ้ามันงาลงไปเพื่อความหอม โรยงาขาวคั่วก่อนเสิร์ฟสักหน่อย เข้ากันเป็นที่สุดค่ะ ใครที่พอหาซื้อซัมมะได้และอยากลองปรุงซัมมะแบบอื่นนอกจากย่างเกลือ ต้องลองค่ะ
เอาล่ะค่ะ ตามมาดูสูตรปลาซัมมะย่างเทอริยากิ ที่ต๊ะทำกินกับซาดาโอะ และโคชิดีกว่า อร่อยน้า
ส่วนผสม
ปลาซัมมะ 2 ตัว
นํ้าเปล่า 4 ช้อนโต๊ะ
สาเก มิริน โชยุ อย่างละ 1 ช้อนโต๊ะ
นํ้ามันงา 1/4 ช้อนชา
นํ้าตาล 2 ช้อนชา
งาขาวคั่ว 1-2 ช้อนโต๊ะ
แป้งข้าวโพดเล็กน้อย
นํ้ามันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
1. ล้างซัมมะให้สะอาด แล้วแล่เอาก้างออกตามรูปนะคะ เสร็จแล้วเอา paper towel ซับนํ้าออก
2. โรยแป้งข้าวโพดบาง ๆ ให้ทัั่ว แป้งข้าวโพดจะช่วยให้ปลากรอบ และซอสข้นเหนียวนะคะ
3. ตั้งกระทะใส่นํ้ามัน เอาปลาลงทอด
5. พอเนื้อปลาด้านนอดเปลี่ยนสี ให้ผสมนํ้าเปล่า สาเก โชยุ มิริน นํ้ามันงา และนํ้าตาลในถ้วย แล้วใส่ลงไปค่ะ6. ลดไฟลงเป็นไฟกลางค่อนข้างอ่อน เคี่ยวไปสักครู่จนซอสข้นดี
แฮมเบอร์เกอร์สไตล์ญี่ปุ่นหรือที่คนญี่ปุ่นเรียกว่า Hambagu เป็นเนื้อหมู / เนื้อวัวสับปรุงรสปั้นเป็นก้อน แล้วเอาไปตุ๋นกับซอส วันนี้ต๊ะทำวาฟุ ฮัมบากุ สเต๊กที่ปรุงรสด้วยเครื่องปรุงแบบญี่ปุ่น ซอสที่ใช้อาจจะทำจากพอนสึ (ดูวิธีทำแบบโฮมเมดที่นี่ค่ะ) ดาชิ โขยุ หรือเมนสึยุ แบบที่ต๊ะใช้วันนี้ ซึ่งรสชาติจะไม่เหมือนฮัมบากุที่เคยลงสูตรไว้เลยนะคะ เครื่องปรุงน้อยแต่อร่อยมาก ไม่เชื่อลองไปทำกันดูนะคะ
เมนสึยุเป็นซอสอเนกประสงค์ใช้ทำนํ้าซุป/ นํ้าจิ้มโซบะ ราเมน อุด้ง หรือจะใช้เป็นซอสจิ้มเทมปุระ หรือจะใช้เป็นเครื่องปรุงรส ใส่ผัดผักก็แสนอร่อย และสะดวกมากๆ ค่ะ โดยทั่วไปในตลาดจะมีขายแบบพร้อมใช้ และแบบที่ต้องเอาไปผสมนํ้าก่อน ต๊ะใช้แบบที่ต้องเอาไปผสมนํ้าแบบ 3:1 (นํ้าสามส่วนนะคะ)
เมนสึยุมีทำจากปลาโอแห้ง โชยุ มิริน สาเก ถ้าสะดวกจะทำเอง ก็ไม่ยากนะคะ แต่ต้ม โชยุ มิริน (อย่างละ 1/2 ถ้วย) สาเก 1/4 ถ้วย แล้วใส่ปลาโอแห้งไป 1 กำมือ พอเดือดก็กรองออก ปลาโอแห้งเก็บเอาไว้ทำฟุุริคาเกะได้ค่ะ ไม่ต้องทิ้ง
วันนี้ต๊ะใช้เนื้อวัวล้วนนะคะ ถ้าใครสะดวกเนื้อหมูจะเป็นเนื้อหมูก็ได้ หรือผสมกันก็อร่อยดี ถ้าเป็นเนื้อไก่ก็เลือกที่มันๆ หน่อย ไม่งั้นน่าจะแห้งไปสำหรับเมนูนี้ค่ะ
ชางนี่ลูกชายสอบ ต๊ะก็ทำอาหารพิเศษหน่อย เมนูนี้โคชิชอบ จัดจานสวยๆ หน่อย ของที่ไม่ชอบอย่างมะเขือเทศหรือองุ่นเนี่ยกินหมดนะคะ ขนาดว่าพ้นวัยตึ่นเต้นกับอาหารรูปการ์ตูน หรือ charaben นานแล้ว แต่ลึกๆ ถามว่าชอบไหม ตอบได้เลยว่ายังชอบมาก เพียงแต่ไม่ค่อยจะแสดงออกเท่านั้นเอง ใครที่ลูกกินอาหารยาก ลองจัดจานน่ารัก ๆ ดูนะคะ ช่วยได้มากเลย
เอาล่ะค่ะ ตามมาดูสูตรวาฟุ ฮัมบากุ (Wafu Hambagu) ที่ต๊ะทำกินกับซาดาโอะและโคชิดีกว่า อร่อยน้า
ส่วนผสม
เนื้อวัว 250 กรัม
ไข่ไก่ตีให้เข้ากัน 1/2 ฟอง
เกลือ พริกไทย อย่างละนิดหน่อย
หอมใหญ่สับ 1/4 ลูก
เกล็ดขนมปังแห้ง 1/4 ถ้วย
เมนสึยุ 1 ช้อนโต๊ะ
นํ้ามันนิดหน่อยสำหรับทอด
สำหรับซอส
นํ้าเปล่า 100 มล.
เมนสึยุ 2 ช้อนโต๊ะ
นํ้าตาล 1 ช้อนชา
สำหรับเสิร์ฟ
หัวไชเท้าขูด
ผักสด
เมล็ดข้าวโพดต้มสุก (ใครสะดวกเอาไปผัดเนยก็ดีนะคะ เข้ากันดีเลย)
วิธีทำ
1. ผสมเนื้อ ไข่ เกล็ดขนมปัง เกลือพริกไทย หอมใหญ่ เมนสึยุ นวดให้เข้ากัน พักไว้ในตู้เย็นอย่างน้อยที่สุด 3 ชั่วโมง จากนั้นแบ่งส่วนผสมเป็น 4 ส่วน ปั้นเป็นก้อนเท่าๆ กัน
2. ตั้งกระทะใส่นํ้ามัน ใส่ส่วนผสมลงไปทอด อย่าพลิกบ่อยนะคะ ส่วนผสมนิ่มมากอาจจะแตกได้ ตรงนี้นํ้ามันอาจจะดูเยอะหน่อย พอส่วนผสมเกรียมนิดๆ จะใช้ paper towel หรือช้อนตักก็ได้นะคะ ต๊ะเอาช้อนตักเพราะเสียดายนํ้ามัน เอาไปทำผัดไทยต่อได้ อร่อยกว่านํ้ามันพืชธรรมดา3. จากนั้นใส่ส่วนผสมซอสลงไป ปิดฝาจนนํ้าแห้งเกือบหมด และเนื้อสุกดี
4. เสิร์ฟกับหัวไชเท้าขูด และผักตามชอบค่ะ
ทำเสร็จแล้วถ้ากลัววาฟุ ฮัมบากุ (Wafu Hambagu) จะเหงา ก็จัดเซ็ตง่ายๆ กับไข่หวาน สลัดมันฝรั่ง และเค้กส้มนะคะ
ทำฮัมบากุแล้ว ถ้ามีเหลือเอาไปใส่เบนโตะกันได้นะคะ ถ้าไม่รู้ว่าจะใส่อะไรดี ลองสลัดมันฝรั่งนะคะ ง่ายมากๆ ค่ะ ดูสูตรสลัดมันฝรั่งที่นี่ค่ะ
http://nipponkitchen.blogspot.com/2011/08/blog-post.html
ญี่ปุ่นก็พอมีอาหารแซ่บๆ อยู่บ้างเหมือนกันนะคะ ถึงจะไม่เผ็ดสุดขีดเหมือนอาหารไทยหลายๆ อย่าง แต่ที่ต๊ะเน้นเสมอ นั่นคืออาหารญี่ปุ่นไม่ได้จืดชืดเหมือนที่เคยได้ยินกันมานะคะ จริงๆ แล้วอาหารญี่ปุ่นแบบแซ่บๆ เผ็ดๆ ต๊ะก็เคยนำเสนอไปบ้างนะคะ ไม่ว่าจะเป็นพอยเชลล์ย่างซอสมิโซะสไปซีส์ สไปซีส์มิโซะราเมน ทันทันเมน สไปซีส์มิโซะซึเคเมน ถ้าชอบความแซ่บ ความเผ็ด ก็ลองแวะเข้าไปดูสูตรกันได้นะคะ
ไก่ย่างสูตรนี้ทำไม่ยาก ส่วนผสมไม่มากมาย เผ็ดแซ่บ แต่ไม่มันเยิ้มเพราะไม่ได้ใส่นํ้ามันลงไปเลยทั้งตอนหมัก และระหว่างอบ แต่ไก่ก็นุ่มอร่อย เพราะปีกไก่เป็นเนื้อไก่ที่มีปริมาณไขมุนค่อนข้างสูงอยุ่แล้วนะคะ ถ้ากำลังดูแลนํ้าหนักจะใช้ไก่ส่วนอื่นที่ไขมันน้อยกว่าก็ได้นะคะ แต่อย่างน้อยขอเป็นไก่มีหนัง ไม่อย่างนั้นอบออกมาเนื้อไก่อาจจะแข็งไปได้เหมือนกันค่ะ
เอ่าล่ะค่ะ ตามมาดูสูตรปีกไก่อบนํ้าผึ้งมิโซะสไปซีส์ (Spicy Honey Miso Chicken Wings) ที่ต๊ะทำกินกับซาดาโอะและโคชิดีกว่า อร่อยน้า
ส่วนผสม
ปีกไก่ 6 ปีก
มิโซะแดง 1 ช้อนโต๊ะ
โชยุ 1 ช้อนโต๊ะ
นํ้าผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ
กระเทียมจีนหั่นบางๆ 1 กลับ
สาเก 1 ช้อนชา
ซอสพริกศรีราชา 1/2 ช้อนชา
พริกป่นเกาหลี 1 ช้อนชา
วิธีทำ
1. หมักไก่กับส่วนผสมทั้งหมดในตู้เย็น 1-2 ชั่วโมง
2. อุ่นเตาอบที่ 170 เซลเซียส นำไก่ออกมาอบประมาณ 20 -25 นาที จนสุกทั้ว
3. ระหว่างอบให้เอาแปรงจุ่มส่วนผสมที่ใช้หมักไก่ (ถ้ามีเหลือ) แล้วทาปีกไก่ให้ทั่ว หลายๆ ครั้ง ปีกไก่จะได้ชุ่มฉํ่านะคะ
ลองทำกันดูค่ะ
กลับมาอีกครั้งกับเมนูไก่ย่างเทอริยากินะคะ แต่แน่นอนว่าสูตรนี้ไม่เหมือนสูตรที่เคยนำเสนอไปนะคะ วันนี้ใช้ส่วนปีก เอาไก่ไปต้มก่อนแล้วค่อยมาย่าง อย่าห่วงว่ารสชาติ และความหวานของเนื้อไก่ตามธรรมชาติจะหายไปนะคะเพราะนํ้าที่ได้จากการต้มไก่ เราจะเก็บไว้ใช้ตอนเคี่ยวซอส รับรองว่าความอร่อยยังอยู่ครบนะคะ
ช่วงที่ผ่านมาต๊ะหายหน้าไปพักนึง เพราะยุ่งวนอยู่กับการทำฟัน ท้าวความนิดหน่อยคือต๊ะเป็นคนฟันเยอะ ฟันซ้อน ตอนสาวๆ เรียกเขี้ยวเสน่ห์ ตอนนี้ถ้าย้อนเวลาได้อยากกลับไปจัดฟันมากเพราะความคิกขุนี้แลกมาด้วยความลำบาก ทั้งทำความสะอาดยาก และที่สำคัญเริ่มมีปัญหาเรื่องการสบกันของฟัน แต่ตอนนี้ด้วยวัย ด้วยอะไรหลายอย่าง คงต้องตัดใจ
ก่อนย้ายมาญี่ปุ่นต๊ะถอนฟันคุดไปแล้ว 3 ซี่ ตอนนั้นก็คิดแล้วว่าน่าจะหมด เพราะอายุก็ไม่น้อยแล้วตอนที่ถอน แต่มันโผล่มาอีกค่ะซี่ที่ 4 และปวดทรมานมาก ชนิดที่ต้องกินยาแก้ปวดตลอด นอนไม่หลับกันเลยทีเดียว จำเป็นต้องถอน
การทำฟันในญี่ปุ่นถ้าเป็นเรื่องพื้นฐาน ถอน ขูดหินปูน อุด ราคาไม่แรงนะคะ ประกันจ่าย 70 เปอร์เซ็นต์ ต๊ะเองโดนรอบนี้ไป 7000 เยน นิดๆ รวมค่าเอ็กเรย์ ถอน ขูดหินปูน แต่ถ้าเป็นทำรากฟันเทียม ทำฟันปลอม จัดฟัน อันนั้นแพงมาก และไม่ค่อยมีใครทำกันนะคะ
ตอนนี้ทุกอย่างกลับสู่สภาวะปกติแล้ว ขอเอาเมนูง่ายๆ มาฝากกันก่อนนะคะ วันนี้เราเอาไก่ไปต้มก่อนจะเอามาย่างเพื่อให้ชัวร๋ว่าไก่่สุกแท้แน่นอน และไม่มีเลือดติดตรงกระดูกด้วย ไม่ชอบปีกจะใช้น่องไก่ หรือสะโพกไกแทนก็ได้นะคะ
เอาล่ะค่ะตามมาดูสูตรปีกไก่ย่างเทอริยากิ (Chicken Wings Teriyaki) ที่ต๊ะทำกินกับซาดาโอะ และโคชิดีกว่า อร่อยน้า
ส่วนผสม
ปีกไก่ 5 ปีก
ผงซุปไก่ (chicken bouillon powder) 1 ช้อนโต๊ะ
สาเก 1 ช้อนโต๊ะ
มิริน 1 ช้อนโต๊ะ
โชยุ 1 ช้อนโต๊ะ
นํ้าตาล 1/2 ช้อนโต๊ะ
แป้งข้าวโพดหรือแป้งสาลีนิดหน่อย
นํ้ามันพืชนิดหน่อย
วิธีทำ
1. เทนํ้า 300 มล. ใส่หม้อ ใส่ไก่ลงไปต้ม ใส่ผงซุปไก่ลงไป ต้มไปราวๆ 10 นาทีค่ะ
2. เสร็จแล้วตักไก่ขึ้น ซับด้วย paper towel จากนั้นโรยแป้งข้าวโพดบางๆ3. ตั้งกระทะใส่ไก่ลงไปทอดให้พอเหลือง จากนั้นใส่นํ้าต้มไก่ที่เหลือ โชุยุ สาเก มิริน นํ้าตาลไป
4. เคี่ยวไปจนซอสข้น และแห้งเกือบหมดเป็นอันเสร็จ เสิร์ฟได้ค่ะ ลองทำกันดูนะคะ
สลับสับเปลี่ยนกลับมาทำอาหารญี่ปุนกันอีกครั้งนะคะ ตอนเริ่มทำ blog ใหม่ๆ แนวทางของต๊ะยังไม่ชัดเจนและทำอาหารญี่ปุ่นก็ยังไม่คล่องด้วย ตอนแรกที่ทำก็จะมีสูตรอาหารไทยเยอะเพราะคิดอะไรไม่ออก แต่ซาดาโอะก็อยากให้ทำ ให้เริ่มทำทั้งๆ ที่ยังทำอะไรไม่ค่อยจะเป็นนั่นแหละ จริงๆ เรื่องนี้ต้องขอบคุณซาดาโอะ สามีที่บอกตลอดว่าจะทำอะไรก็ทำ ไม่ต้องรอให้เก่ง ต๊ะก็เลยเริ่มทำblog และจากนั้นก็เป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องดีๆ หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการเขียนหนังสือ การเขียนรีวิวร้านอาหาร หรือรีวิวสถานที่ท่องเที่ยว จนตอนนี้แนวทางของ blog ก็ชัดเจน และทำอาหารญี่ปุ่นได้มากขึ้น ต๊ะเริ่มลังเลที่จะโพสต์สูตรอาหารไทยอีก เพราะมีคนทำ มีคนเชียนเยอะแล้ว แตใจนึงก็อยากขยายกลุ่มคนอ่าน ระยะหลังก็จะเห็นต๊ะโพสต์สูตรอาหารเอเชีย หรืออาหารฝรั่งบ้าง ชอบไม่ชอบยังไงบอกกันได้นะคะ
เมนูวันนี้เป็นปลาค็อดย่างมิโซะมายองเนส ง่ายที่สุดในสามโลก แต่ความอร่อยนั้นท้าให้ลองเลยค่ะ ถ้าหาปลาค็อดไม่ได้ ลองปลาดอรี หรือปลาบาสะนะคะ รสชาติและกลิ่นถือว่าใกล้เคียงมากๆ แต่ปลานํ้าจืดอย่างอื่นไม่แนะนำนะคะ
มาพูดถึงปลาค็อดในญี่ปุ่นกันหน่อยนะคะ ด้วยความที่เป็นปลาตัวใหญ่จะไม่เห็นขายทั้งตัว จะแล่เป็นชิ้น และส่วนมากจะเอาหนังออกด้วย เวลาย่างเตามันจะไม่ค่อยคงรูปสวยงาม ต๊ะเลยปรับสูตรนิดหน่อยใช้ย่างกระทะแทน ก็ได้ผลนะคะ ย่างเสร็จแล้วปลายังสวย จากนั้นค่อยทามิโซะแล้วย่างเตาไฟฟ้าอีกหน่อย โอเคเพอร์เฟคได้ซอสมิโซะหอมๆ เนื่อปลาก็สวยถูกใจ
เอาล่ะค่ะ ตามมาดูสูตรปลาค็อดย่างมิโซะมายองเนส (Grilled Cod with Miso Mayonnaise) ที่ต๊ะทำกินกับซาดาโอะและโคชิดีกว่า อร่อยน้า
เมนูวันนี้เป็นปลาค็อดย่างมิโซะมายองเนส ง่ายที่สุดในสามโลก แต่ความอร่อยนั้นท้าให้ลองเลยค่ะ ถ้าหาปลาค็อดไม่ได้ ลองปลาดอรี หรือปลาบาสะนะคะ รสชาติและกลิ่นถือว่าใกล้เคียงมากๆ แต่ปลานํ้าจืดอย่างอื่นไม่แนะนำนะคะ
มาพูดถึงปลาค็อดในญี่ปุ่นกันหน่อยนะคะ ด้วยความที่เป็นปลาตัวใหญ่จะไม่เห็นขายทั้งตัว จะแล่เป็นชิ้น และส่วนมากจะเอาหนังออกด้วย เวลาย่างเตามันจะไม่ค่อยคงรูปสวยงาม ต๊ะเลยปรับสูตรนิดหน่อยใช้ย่างกระทะแทน ก็ได้ผลนะคะ ย่างเสร็จแล้วปลายังสวย จากนั้นค่อยทามิโซะแล้วย่างเตาไฟฟ้าอีกหน่อย โอเคเพอร์เฟคได้ซอสมิโซะหอมๆ เนื่อปลาก็สวยถูกใจ
เอาล่ะค่ะ ตามมาดูสูตรปลาค็อดย่างมิโซะมายองเนส (Grilled Cod with Miso Mayonnaise) ที่ต๊ะทำกินกับซาดาโอะและโคชิดีกว่า อร่อยน้า
ส่วนผสม
ปลาค็อด 2-3 ชิ้น
แป้งสาลีนิดหน่อย
นํ้ามันพืชนิดหน่อย
สำหรับซอส
มิโซะแดง 2 ช้อนโต๊ะ
มายองเนสญี่ปุ่น 2 ช้อนโต๊ะ
นํ้าตาลทราย 1 ช้อนชา
สาเก 1 ช้อนชา
วิธีทำ
1. โรยแป้งสาลีให้ทั่วปลานะคะ เสร็จแล้วเทนํ้ามันใส่กระทะ แล้วย่างให้สุก
2. ผสมส่วนผสมซอสทั้งหมดให้เข้ากันเสร็จแล้วนำไปทาบนปลานะคะ จากนั้นเอาไปย่างต่อพอให้มิโซะเปลี่ยนเป็นสีเข้ม เสฺิร์ฟได้ค่ะ ลองทำกันดูนะคะ
ในบรรดาปลาที่ขายกันทั่วไปในญี่ปุ่น ต๊ะชอบแซลมอนมาุก เพราะเป็นปลาที่มีไขมันพอดีๆ และไม่มีกลิ่นคาว จริงๆ แล้วแซลมอนไม่ใช่่เปลาที่นิยมมากนักถ้าเทียบกับปลาทูน่า ซาบะ หรืออิวาชิ แต่ก็ไม่ถือว่าน้อย และเป็นปลาที่หาซื้อได้ตลอดทั้งปีในราคาไม่แพง ต๊ะชอบเอามาทำอาหารบ่อยๆ เพราะเป็นปลาที่ปรุงอาหารได้หลากหลาย ปรุงออกมาก็ไม่ค่อยพลาดเพราะเนื้อปลาไม่คาว จะย่างจะต้มก็สะดวกใจถึงแม้จะไม่ใช่โปรด้านเมนูปลา
ย่างเทอริยากิเป็นวิธีปรุงแซลมอนยอดนิยมอย่างนึง อันที่จริงต้องบอกวาเป็นเมนูที่ร้านอาหารญี่ปุ่นหลายๆ ร้านต้องมีประดับเมนูกันไว้เพราะยังไงก็มีคนสั่ง ซอสเทอริยากิมีส่วนผสมหลักๆ 3 อย่างคือโชยุ สาเก มิริน ถ้าอยากให้ออกหวานก็ใส่มิรินมากหน่อยนะคะ หรือจะใส่นํ้าตาลลงไปด้วยก็ได้
ช่วงนี้อากาศร้อนมากต๊ะเลยไม่ค่อยได้เตรียมอาหารทอดๆ เท่าไหร่ เพราะเวลาทอดอะไรทีท้องแขนจะร้อนจนแสบ เพราะครัวเป็นครัวปิด ถึงจะมีเครื่องดูดควันก็ต้องบอกว่าไม่ได้ช่วยมาก ช่วงนี้จึงเน้นอาหารที่ปรุงได้รวดเร็ว ครัวจะได้ไม่ร้อนมาก แต่ยอมรับว่าก็ไม่ได้ช่วยมากเท่าที่คิด แต่ก็ดีกว่าไม่ทำอะไรเลยนะคะ
เอาล่ะค่ะตามมาดูสูตรแซลมอนเทอริยากิ (Salmon Teriyaki) ที่ต๊ะทำกันกับซาดาโอะและโคชิดีกว่า อร่อยน้า
ส่วนผสม
แซลมอน 3 ชิ้น
แป้งสาลี หรือแป้งข้าวโพด นิดหน่อย
โชยุ 2 ช้อนโต๊ะ
สาเก 2 ช้อนโต๊ะ
มิริน 3 ช้อนโต๊ะ
นํ้ามันพืชนิดหน่อย
วิธีทำ
1. โรยแป้งสาลีบางๆ ให้ทั่วปลา
2. ตั้งกระทะใส่นํ้ามันนิดหน่อย เอาแซลมอนลงไปทอดจนสุก
4. ผสมโชยุ สาเก มิริน ในถ้วย เสร็จแล้วเทลงไปในกระทะ พอซอศงวดลงนิดหน่อยใส่ปลากลับลงไปในกระทะ รอให้ซอสซึ่มเข้าไปในเนื้อปลา ปิดไฟ เสิร์ฟได้ค่ะ
ลองทำกันดูนะคะ